ลุยเดี่ยว มหาชัย-อัมพวา เมื่อไปแบบไม่ได้ตั้งใจ
- MEEpanda
- Jun 1, 2018
- 1 min read
Updated: Jul 20, 2018
Nov, 2015

สืบเนื่องจากว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แพนตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกที่ว่า 'อยากไปเที่ยวที่ไหนซักที่' ซึ่งแพนมักจะมีความรู้สึกแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ทราบว่าเป็นอาการของอะไร 555 แก้ไขง่ายๆด้วยการออกจากบ้านเพื่อไปไหนซักที่นั่นแหละ แต่ก็ไม่เคยได้เอาประสบการณ์ไปมั่วๆ แต่โคตรมันส์ครั้งก่อนๆมาเล่าให้ฟังซักทีนั่นเองที่เป็นประเด็น ไม่รู้จะไปไหนแต่อยากไป ว่าแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านมาตอนสายๆ นึกขึ้นได้ว่าเอาโทรศัพท์ไปซ่อมที่บิ๊กซีพระราม2 แวบไปเอาก่อนแล้วกัน พอไปถึงจึงได้เจอรถตู้เหมือนจะเขียนว่าไปสมุทรสาคร ตื่นเต้นขึ้นมาทันใด อยากไปเดินชิวๆตลาดอัมพวา ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็โง่เอง ไม่เอะใจเลยซักนิดว่ารถมันจะไปถึงอัมพวามั้ย กระโดดขึ้นรถเลยจ้า รถออกตัวได้ซักพักคนขับก็ส่งตะกร้ามาเก็บค่าโดยสาร แพนก็ถามคุณน้าข้างๆว่ากี่บาท เค้าบอกคนละ 25 บาท....ก็แบบเริ่มได้เอะใจก็คราวนี้ มันถูกไปมั้ย ปกติถ้าไปอัมพวาจากพระราม 2 แพนจะนั่งรถตู้ตรงบางประแก้ว ราคา 50 บาท เอ่ยถามคุณน้าอีกรอบ รถคันนี้สุดสายที่ไหน "มหาชัยค่ะ" ..... เงิบไปอีก -.-!!! คิดในใจเอาวะไปเดินเล่นมหาชัยก็ได้ ซึ่งลึกๆในใจก็แอบคิดอีกว่าแต่ไปมหาชัยเบื่อแล้วนะเอาจริงหรอแพน คิดไปคิดมา จนรถมาจอดที่มหาชัย แพนก็ยังลงรถมางงๆ เราจะไปไหนดี555

งั้นถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย เดินเลียบคลองมุ่งไปยังท่าน้ำมหาชัย สายตาก็ป๊ะเข้ากับป้ายรถตู้ไปแม่กลอง แฮร่...ไปอัมพวาดีกว่า แต่เคยได้ยินว่าจากฝั่งมหาชัยข้ามไปขึ้นรถไฟฝั่งบ้านแหลมได้เหมือนกันนี่หว่า แพนก็ฝันหวานหารถไฟเลยสิคะ ข้ามฟากกันดีกว่า

คนเยอะแยะเลย และแดดก็เยอะพอๆกับคน 📷ได้เห็นเรือประมงแบบไกล้ๆด้วย อยากรู้จังว่าข้างในเรือจะเป็นยังไง 📷ถึงท่าเรือ ท่าฉลอมแล้วก็ลุยกันต่อ เห็นป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟก็ตรงรี่ไปเลยจ้า แล้วก็งงไปอีก หาไม่เจอ สถานีอยู่ไหนโชคดีเจอแก๊งเด็กเจ้าถิ่นเลยได้ถามทาง น้องบอก "ตอนนี้มันไม่มีรถไฟแล้วพี่เค้ารื้อออก" ....อาการเงิบมาอีกแล้ว -.-!!! ไม่เป็นไรขอไปดูเศษซากสถานีรถไฟก่อนละกัน 📷ระหว่างทางเจอบ้านไม้เก่า เท่ดีก็ถ่ายเก็บไว้หน่อย รูปก็มัวๆ สงสัยมือคงไปโดนตรงเลนส์ เดินสวยๆท้าแดดกันต่อดีกว่า
คนเยอะแยะเลย และแดดก็เยอะพอๆกับคน

ได้เห็นเรือประมงแบบไกล้ๆด้วย อยากรู้จังว่าข้างในเรือจะเป็นยังไง

ถึงท่าเรือ ท่าฉลอมแล้วก็ลุยกันต่อ เห็นป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟก็ตรงรี่ไปเลยจ้า แล้วก็งงไปอีก หาไม่เจอ สถานีอยู่ไหนโชคดีเจอแก๊งเด็กเจ้าถิ่นเลยได้ถามทาง น้องบอก "ตอนนี้มันไม่มีรถไฟแล้วพี่เค้ารื้อออก" ....อาการเงิบมาอีกแล้ว -.-!!! ไม่เป็นไรขอไปดูเศษซากสถานีรถไฟก่อนละกัน

ระหว่างทางเจอบ้านไม้เก่า เท่ดีก็ถ่ายเก็บไว้หน่อย รูปก็มัวๆ สงสัยมือคงไปโดนตรงเลนส์ เดินสวยๆท้าแดดกันต่อดีกว่า

ชานชะลาเก่า เมื่อก่อนคงจะมีคนครึกครื้นน่าดู แพนเดินไปเรื่อยๆจนเจอกับนายสถานีเลยได้ใจความมาว่า ทางการปิดปรับปรุงทางรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง จริงๆควรจะเสร็จสิ้นเดือนนี้ แต่ก็โดนเลื่อนเป็นมีนาคมปีหน้า นี่แหละนะประเทศไทย เลื่อนเข้าไป เอ้าเลื่อนเข้าไป นายสถานีบอกว่าจริงจะมีรถสองแถวจากตรงสถานีมาอำนวยความสะดวกตอนที่รถไฟปิดซ่อม แต่ต้องรอนานมันจะมาเป็นรอบของมัน ตอนนั้นเองเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติมาถาม รถไฟอยู่ไหน อธิบายกันยาวเค้าก็ดูงงเพราะตรงที่ยืนอยู่ก็ดูไม่เหมือนสถานีรถไฟซักเท่าไหร่

เมื่อก่อนรถไฟจะจอดตรงนี้ แหม่ เชียวชอุ่มเชียว ถ้าไม่ถามก็ไม่รู้เลยนะว่าเคยมีรางรถไฟปกทับหญ้าพวกนี้อยู่ เอาล่ะมาแล้วไม่เจอรถไฟพี่แพนก็กลับไปจุดเริ่มต้นดีกว่า นั่งรถตู้ไปแม่กลองก็ได้ โดยไม่ลืมพาชาวต่างชาติ 2 คนที่เพิ่งเจอมาด้วยกัน ระหว่างทางพวกเค้าก็บ่นๆๆๆมาแล้วไม่เจอรถไฟ แพนล่ะ เพลียยยย ก็มันไม่มีให้ทำไงหว่าเห็นใจเหมือนกันนะอุตส่าห์ข้ามมา เดินตากแดดร้อนๆมาแล้วไม่เจออะไร
หลังจากลงรถตู้ที่ตลาดแม่กลอง เดินฝ่าฝูงแดดแผดเผา


มุ่งหน้าไปยังตลาดร่มหุบเลยจ้า อยากเห็นว่าสภาพทางรถไฟจะเป็นยังไง

ร้างเชียว มีคนมาหาเก็บของเก่าขายด้วย จากทางรถไฟทะลุไปอีกฝั่งก็จะเจอ 3 แยก มีวินรถสองแถวหน้าเซเว่น กระโดดขึ้นให้ไว คนขับก็พามาจนถึงแยกหน้าโรงเรียนอัมพวันวิทยาลัย เค้าบอกว่าไปตลาดน้ำลงตรงนี้ชี้ไปทางซ้าย แพนเลยถาม ทางขวามีที่เที่ยวอื่นมั้ย "อุทยาน ร.2" พอได้ยินเท่านั้นแหละ เกิดความคิดใหม่ขึ้นมาทันที ไม่ไปเดินตลาดน้ำแระ ไปเดินเล่นในอุทยานดีกว่า จากนั้นก็เดินเท้ากันต่อไป

เดินมาไม่ไกลมากก็ถึงแล้วจุดหมายของเรา ซื้อบัตรผ่านประตูแล้วเข้าไปดูข้างในดีกว่า

ภายในอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 ส่วน คือ - ส่วนที่หนึ่ง ลานจอดรถหน้าอุทยาน ปัจจุบันมีที่ขายสินค้าพื้นเมืองและผลไม้ และอาศรมศึกษาซึ่งเป็นเรือนไทยโบราณ - ส่วนที่สอง เป็นโรงละครกลางแจ้ง มีเนินลดหลั่นสำหรับชมการแสดง และปลูกพันธุ์ไม้ต่างๆ - ส่วนที่สาม อาคารทรงไทย 5 หลัง จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ 4 หลัง และอาคารซ้อมโขน ละครและเก็บเครื่องดนตรีไทย 1หลัง - ส่วนที่สี่ สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิด เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์ไม้ มีหุ่นจำลองเรื่องในวรรณคดี สังข์ทอง ไกรทอง - ส่วนที่ห้า พื้นที่ติดแม่น้ำ มีศาลาเอนกประสงค์สำหรับนั่งพักผ่อน มีร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าพื้นเมือง มีเรือประพาสอุทยาน ประชาชนขึ้นชมได้ - ส่วนที่หก พื้นที่ประมาณ 11 ไร่ ซึ่งจะดำเนินการจัดทำสวนและทำสวนเกษตรตามพระราชดำริในองค์ประธาน เดินเข้ามาสิ่งแรกที่เจอคือร้านเช่าจักรยาน ใครขี้เกียจเดินก็เช่าเอาละกัน ส่วนแพน.....เดินค่ะเดิน เรือนไทยหลังแรกที่เจอก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ เค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านใน ก็เลยถ่ายด้านนอกพอ





มีการจัดแสดงเรือจำลองด้วยนะ


จากนี้ไปแพนจะลงรูปที่ถ่ายตามที่ต่างๆนะคะ



นอกจากสิ่งก่อสร้างแล้ว ภายในอุทยานยังมีมุมสวน ให้นั่งชิวๆ รับลมเย็นด้วย



ด้านหลังสุดของอุทยานก็จะเป็นแม่น้ำ ลมเย็นมากบอกเลย

นั่งริมน้ำซักพักมองออกไปเห็นเรือนำเที่ยววิ่งอยู่ไกลๆ อีกหนึ่งความคิดจึงผุดขึ้นมา "เราไปนั่งเรือเล่นดีกว่า" ไม่รอช้าค่ะ รีบออกจากอุทยานมุ่งหน้าไปที่ตลาดน้ำทันที
ต่อดีกว่าาา ไปนั่งเรือไหว้พระ 5 วัดกัน

ทันเรือรอบสุดท้ายพอดี

เรือออกจากฝั่งได้ไม่ไกลมองไปทางขวามือก็จะเจออุทยาน ร.2 ที่แพนนั่งมองท้องน้ำในตอนแรก และจากนี้ไปแพนจะลงรูปวัดและบรรยากาศริมน้ำรัวๆเลยแล้วกัน










ทั้งหมด 1 ชม. ล่องเรือไปไหว้พระ วัดท้องคุ้ง/วัดบางนางลี่ใหญ่/วัดบางแคกลาง/วัดบางกุ้ง/วัดบางแคน้อย แอบเสียดายรูปอยู่หน่อยๆเมมเสียเป็นอะไรไม่รู้สงสัยไวรัสลง เหลือรูปไม่เท่าไหร่เอง เอาเป็นว่าลงเท่าที่ลงได้แล้วกัน หลังจากทัวร์วัดจนครบ ฟ้าก็มืดพอดี

ได้เห็นวิวริมน้ำสวยๆกันไป มองเวลาก็เกือบทุ่มนึงแล้ว............
ปัญหาค่ะปัญหา รถสองแถวจากตลาดน้ำไปตลาดแม่กลองจะหมดกี่โมง แล้วรถตู้จากแม่กลองเข้ากรุงเทพจะหมดกี่โมง
บอกตัวเองว่าช้าไม่ได้แล้ว ไม่งั้นได้นอนอัมพวาแน่คืนนี้ แต่...มิวาย

ถ่ายบรรยากาศตลาดน้ำตอนกลางคืนไว้ซะหน่อย แพนถามคนแถวๆนั้นได้ใจความมาว่ารถสองแถวหมดแล้ว ถ้าจะไปตลาดแม่กลองต้องไปขึ้นรถตู้ตรงโน้นนนนน ซึ่งตรงไหนก็ไม่รู้ ท้องฟ้าก็มืดเกินไปนะ แพนเดินเลียบถนนด้านนอกตลาดไปเรื่อยๆใจก็คิด ตูจะเอาไงต่อดี และเหมือนฟ้าประทาน มีรถส่งเสียงแตร ปี๊ด ปี๊ด หันไปดูเป็นรถสองแถวคันที่ไปตลาดแม่กลอง ใจนี่ชื้นขึ้นมา 80% แต่พอขึ้นไปเท่านั้นแหละ

แพนเป็นผู้โดยสารคนเดียวบนรถนี้ ใจ 80% เมื่อสักครู่ ลดเหลือ 10% ในทันใด อยากจิร้องไห้ เค้าจะพาเราไปส่งถึงที่มั้ยเนี่ย
สิ่งที่ทำได้ตอนนั้น ส่งโลเคชั่นไปให้เพื่อนรัวๆเลยจ้า ประมาณว่าถ้าแพนเป็นไรไปจะได้มาเก็บศพถูกที่ นั่งใจตุ๊บต่อมตลอดทาง ในที่สุดรถก็มาจอดที่จุดจอดรถในตลาด วิ่งไปขึ้นรถตู้เข้ากรุงเทพ ดีที่ทันรถตู้ ตอนนั้นก็ทุ่มกว่า เกือบ 2 ทุ่มแล้วด้วย ยิ้มออกเลยค่ะ เพิ่งรู้สึกตัวว่าวันนี้เราห่ามเกินไป
อันตรายมากๆ เอาเป็นว่าเตือนสาวๆที่ไปเที่ยวคนเดียวแล้วกันยังไงก็ระวังตัวกันด้วยเนาะ สำหรับแพนจบเพียงเท่านี้ดีกว่า ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนมาถึงบรรทัดนี้นะคะ
Comments