5 เขา ต้องปีนให้ได้เมื่อมา "สามร้อยยอด"
- MEEpanda
- Jun 6, 2018
- 2 min read
Updated: Jun 11, 2018
Sep,2017

"อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด" แค่ชื่อก็โคตรเขาแล้วค่ะ แพนเลยหยิบเอาความเขาๆ มาเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ อช.สามร้อยยอด ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 บ้านเขาแดง ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
การเดินทางรถส่วนตัว
- เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพมหานครไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๕ (ถนนสายธนบุรี - ปากท่อ ) ผ่านจังหวัดสมุทรสงคราม เลี้ยวเข้าสู่ถนนทางหลวงหมายเลข ๔ (ถนนเพชรเกษม) ที่อำเภอปากท่อ ผ่านจังหวัดเพชรบุรี อำเภอชะอำ และเข้าสู่อำเภอหัวหินถึงอำเภอปราณบุรี เมื่อถึงสี่แยกปราณบุรี เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายปากน้ำ – ปราณบุรี ๔ กิโลเมตร จะเห็นป้ายบอกทางไปยังอุทยานฯ ให้เลี้ยวขวาไปตามถนน ซึ่งเป็นถนนลาดยางอีกประมาณ ๓๑ กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด - เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพมหานครไปตามทางหลวงหมายเลข ๔ (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน ถึงอำเภอปราณบุรี ไปอำเภอกุยบุรี ก่อนถึงอำเภอกุยบุรี ประมาณ ๗ กิโลเมตร บ้านสำโหรงที่หลักกิโลเมตรที่ ๒๘๖.๕ มีทางแยกซ้ายไปประมาณ ๑๔ กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด - เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพมหานครไปตามทางหลวงสายธนบุรี – พุทธมณฑล – นครชัยศรี และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข ๔ สู่จังหวัดเพชรบุรีเส้นชะอำ – บายพาส ตามเส้นทางถึงอำปราณบุรีเมื่อถึงสี่แยกปราณบุรี เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายปากน้ำ – ปราณบุรี ๔ กิโลเมตร จะเห็นป้ายบอกทางไปยังอุทยานฯ ให้เลี้ยวขวาไปตามถนน ซึ่งเป็นถนนลาดยางอีกประมาณ ๓๑ กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
การเดินทางรถโดยสาร
นั่งรถทัวร์ รถตู้ รถไฟ อะไรก็ได้ค่ะ มาลงหัวหินแล้วเช่ามอไซด์จากหัวหินขี่ไป อช.สามร้อยยอด เพราะสะดวกสุดแล้วต่อการเดินทางไปตามจุดท่องเที่ยวภายในอุทยาน หรือถ้าใครมากันเป็นกลุ่มจะลงที่ปราณบุรีแล้วเหมารถสองแถวไปก็ไม่ว่ากัน
แพนมีแบบวีดีโอด้วยนะ ทั้งดูทั้งอ่านประกอบกันไป
มาเริ่มเดินทางกันดีกว่า
เพราะเป็นวันหยุดยาวรถเลยติดสาหัสมาก แพนนั่งรถตู้มาจากแถวบ้าน บ้านแพนอยู่พระราม 2 ค่ะปากทางเข้าสายใต้เลย ปกติแพนไปหัวหินก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. แต่วันนี้ 4 ชม. มายก๊อดดด แพนมาถึงหัวหินตอนบ่าย 2 กว่า แพนนัดเพื่อนไว้ที่หัวหิน ทริปนี้เราเดินทางกัน 2 คนจร้า


เดินถ่ายรูปเล่นและรอเพื่อน จนบ่าย 3 กว่าๆ ก็ไปเช่ารถมอไซด์เพื่อขับไปยัง อช.สามร้อยยอด

ประมาณชั่วโมงเดียวก็ถึงแล้ว แดดเปรี้ยงๆ นี่ขนาด 4 โมงกว่าๆแล้วนะเนี่ย ฮร่า ระหว่างทางแพนเจอแก๊งเจ้าถิ่นด้วยเดินเป็นนักเลงคุมถนนเลย "รู้มั้ยแถวนี้ครายหญ่ายยยยยยย"

นี่ก็อีกแก๊ง จะบอกว่าแค่เข้ามาถึงเขต อช. สามร้อยยอด ก็จะเจอบรรยากาศการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าจ๋อพวกนี้ที่เดินเพ่นพ่านไปทั่วทุกมุมหญ้ามุมถนนแล้ว

นี่ก็ลิงอีกตัว เอ้ย! ไม่ใช่ แพนเองแหละ ลงไปเดินหาจับลิง ว่าจะทักทายเพื่อนร่วมสายพันธุ์ แต่มันดันวิ่งหนีซะงั้น

ด้วยความที่แพนมาถึง อช. ก็เกือบจะเย็นแล้ว เลยเลือกที่จะเริ่มต้นกับ "ถ้ำไทร" เป็นที่แรกของวันนี้เพราะอยู่ไกล้สุด ถ้าไปที่อื่นก่อนก็กลัวจะเย็นเกินไป
เขาลูกที่ 1 ปีนขึ้น "ถ้ำไทร"
ระยะทางไป - กลับ 560 เมตร ถ้าต้องการเจ้าหน้าที่นำทางสามารถติดต่อได้ก่อนขึ้นค่ะ

ถ้ำไทรจะอยู่ติดกับชายหาดบ้านคุ้งโตนด สามารถลงเล่นน้ำได้ มีร้านอาหาร แล้วก็มีที่พักแบบเป็นหลัง ถ้ามาหลายคนนี่แนะนำเลย

เป็นถ้ำที่ไม่ใหญ่มากค่ะ แต่การจะได้ชมต้องอาศัยแรงกายพอสมควร แพนแบกกระเป๋าเป้สิบกว่าโลขึ้นไปตามทางชัน ที่มีโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายเป็นขั้นๆ บางช่วงต้องปีนบ้าง สองข้างทางก็รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ต้นกระบองเพชร นี่ใครอย่าเผลอล้มนะ มีหวังโดนหนามกระบองเพชรตำแน่ ฮร่า ถือว่าเป็นการเปิดฉากทริปปีนเขาแบบได้ใจจริงๆ


เดินมาถึงครึ่งทางก็ต้องโบกมือลาเป้ใบยักษ์ให้มันไปนอนพักข้างกองหญ้าข้างทาง แหะๆ ระหว่างทางก็จะได้เจอวิวทะเลสวยๆแบบนี้เป็นระยะๆ ทำให้มีแรงฮึดเดินต่อ

ค่อยเดิน ค่อยไต่ตามทางมาเรื่อยๆ คนก็ไม่มีวังเวงเป็นบ้า แถมเวลาก็เริ่มเย็นทุกทีๆ แพนเดินมาจนเห็นปากถ้ำไกลลิบๆก็ใจชื้นมาหน่อย


อยู่ดีๆขามันก็เริ่มมีแรง รีบเข้าไปดูในถ้ำเลยจร้า รู้มั้ยว่าวินาทีแรกที่แพนเจอด้านในถ้ำคือมันหายเหนื่อยเลย สวยอ่า เป็นถ้ำที่เพดานด้านบนถูกเซาะกร่อนจนกลายเป็นโพรงทำให้แสงลอดเข้ามาด้านในถ้ำ ต้นไม้ที่โดนแสงเลยโตเอาๆ ดูสวยไปอีกแบบ

นอกจากนั้นก็จะมีพวกหินงอกหินย้อยต่างๆ สวยมาก แพนพลาดไปอย่างคือแพนดันมาตอนเย็นแล้ว คือถ้ามาช่วงเที่ยง บ่าย จะเจอแสงลอดเข้าถ้ำคนที่เค้าเคยเห็นเค้าบอกว่าสวยมาก นี่แพนคงต้องกลับมาอีกรอบสินะ
หลังจากลงมาจากถ้ำไทรแล้ว จากตอนแรกคิดว่าจะไปกางเต้นท์ที่หาดแหลมศาลาก็ต้องเปลี่ยนเป็นหาดสามพระยาเพราะอยู่ใกล้กว่า ตอนนั้นเริ่มเย็นมากแล้วแพนกลัวว่าถ้าไปหาดแหลมศาลามันต้องเดินข้ามเขาเทียนไปอาจจะมืดเกิน วันนี้ก็นอนหาดสามพระยากันค่ะ
.
หาดสามพระยา
เป็นหาดที่สามารถขับรถมาถึงเลย อยุ่ใกล้ทางเข้า อช. ด้วย มีร้านค้า มีห้องน้ำ(สะอาดมาก)บริการ แต่เจ้าหน้าที่จะปิดไฟตอน 3 ทุ่มและห้ามประกอบอาหาร ห้ามก่อกองไฟหรือทำเสียงดัง ค่าบริการก็คนละ 30 บาท

ด้วยความที่เย็นมากถ่ายรูปไม่สวย วันรุ่งขึ้นแพนเลยไปถ่ายบรรยากาศมาให้ดู เผื่อใครสนใจอยากมากางเต้นท์นอนที่นี่นะคะ




คืนนี้ก็นอนกันที่นี่แหละค่ะ แพนหอบเต้นท์ไปกาง แต่รู้มั้ยสุดท้ายแพนก็นอนนอกเต้นท์อยู่ดี ผ้าใบผืนใหญ่ถูกกางบนหาดทรายและตัวแพนที่นอนนับดาว ฟังเสียงคลื่น ฟินกว่านี้มีอีกมั้ย

แต่มีข้อแนะนำนิดหน่อยนะคะ ถ้าใครจะมานอนนอกเต้นท์แบบแพนอย่าลืมเตรียมยาทากันยุงมาด้วนะจ๊ะ
ตื่นเช้าตี 5 กันค่ะ เช้านี้เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ยอดเขาแดง
เขาลูกที่ 2 ปีนขึ้น "จุดชมวิวเขาแดง"
ขี่มอไซด์ออกมาจากหาดสามพระยาเลี้ยวซ้ายมาประมาณ 1 กิโลก็จะถึงเขาแดงค่ะ เวลาตี 5 กว่าๆ แหมมมมม คิดเอาแล้วกันจะวังเวงขนาดไหน บอกก่อนว่ามืดมากเตรียมไฟฉายมาด้วยนะพระเอกของเราเลยแหละ ระยะทางไป - กลับประมาณ 1 กิโล ทางขึ้นก็จะเต็มไปด้วยโขดหิน บางช่วงต้องมีปีนบ้าง ก็ลำบากอยู่ ยิ่งเป็นตอนมืดๆแบบนี้อีก มันส์เลยค่ะ ส่องไฟฉายหาลูกศรนำทาง พอเดินมาเรื่อยๆเริ่มเจอคน ฟ้าก็เริ่มสว่างนิดๆทำให้พอเห็นทาง ใจก็ชื้นขึ้นมาหน่อย แพนนึกว่าแพนต้องหลงป่าซะแล้ว ฮร่า ในที่สุดก็มาถึงบนยอด

หาแทบตายเจอรูปที่มีป้ายจุดชมวิวเขาแดงแค่รูปเดียวที่เพื่อนบังเอิญกดถ่ายแบบไม่ตั้งใจ แถมแพนยังเอาตัวเองเข้าไปบังอีก เฮ้อออออ ช่างมันค่ะมาถึงบนนี้แล้วต้องถ่ายรูปเก็บไว้ล่ะเนาะ



ถ่ายให้ลูกสาวด้วย อุตส่าห์ปีนเขามาด้วยกัน มอมแมมไปหมด


และวิวที่มองจากบนนี้ค่ะ เดินมาอีกฝั่งของยอดเขาจะเจอวิววัดเขาแดงและภูเขาที่ซ้อนทับกัน สวยมาก
พระอาทิตย์เริ่มส่องแสงแรง แพนก็ลาล่ะค่ะ เพราะเขาแดงค่อนข้างจะเป็นยอดเขาที่เล็กมาก ถ้าคนขึ้นมาเกิน 10 คนก็แน่นแน่นอนค่ะ ไม่มีที่หลบแดดด้วย เพราะฉะนั้นเราลงไปปีนเขาลูกที่ 3 กันดีกว่า
ออกจากจุดชมวิวเขาแดงก็ตรงมาด้านในอุทยานเลยค่ะ ไปตามป้ายที่ชี้ไปถ้ำพระยานครนะคะ
เขาลูกที่ 3 ปีนขึ้น "จุดชมวิวเขาเทียน"
เขาเทียนจะเป็นทางผ่านเพื่อไปชมถ้ำพระยานครค่ะ ถ้าใครเหมาเรือเพื่อไปลงหาดแหลมศาลาจะไม่ได้ขึ้นเขาเทียนนะคะ แต่รุ้มั้ยว่านั่นพลาดอย่างแรง

ระยะทาง 530 เมตรค่ะ แต่ทางเดินค่อนข้างจะสบายกว่าเขาอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เหนื่อยนะ ทำเอาหอบเหมือนกัน

แต่พอเห็นวิวจุดแรกก็มีกำลังใจเดินต่อแล้ว ตรงนี้เป็นหาดบางปูค่ะ อยู่ฝั่งที่เราเดินขึ้นเขามานั่นแหละค่ะ ใครที่จะเหมาเรือไปลงหาดแหลมศาลาก็มาขึ้นตรงนี้ค่ะ เรือลำละ 400 บาท นั่งไ้ด้ 6 คน


เดินมาจนใกล้ถึงทางลงเราก็จะเจอจุดชมวิวที่มองเห็นหาดแหลมศาลา ทรายขาวๆกับน้ำทะเลสีเขียวแบบนี้เลย

เดินลงจากเขาเทียนมาได้ก็เหนื่อยเอาการอยู่ ต่อไปก็ต้องเดินผ่านหาดแหลมศาลาเพื่อไปถ้ำพระยานครกันค่ะ
หาดแหลมศาลา
คือหาดที่แพนคิดตั้งแต่แรกว่าจะมากางเต้นท์นอนที่นี่ ด้วยความที่หาดนี้การเดินทางโดยรถจะเข้าไม่ถึงต้องเหมาเรือหรือไม่ก็เดินข้ามเขามาถึงจะเจอ ทำให้มีคนมาพักที่นี่น้อยกว่าหาดสามพระยา นี่ถ้าแพนรู้ว่าข้ามหาดเทียนมาไม่ไกลมากแพนมาค้างที่นี่แล้ว น้ำใสและทรายขาวกว่าหาดสามพระยาเยอะเลย

มีต้นมะพร้าวต้นสนปลูกเรียงราย ร่มรื่นมากดูสิน่ามากางเต้นท์มั้ยล่ะ


ไหนๆก็ผ่านมาแล้วแพนขอเอาลูกๆมาถ่ายรูปเล่นหน่อยนะ


ถ้าใครจะมากางเต้นท์ที่หาดแหลมศาลาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดแคลนอาหารเพราะการเดินทางลำบากนะคะ เค้ามีร้านอาหารด้านใน แล้วก็มีห้องน้ำให้บริการซึ่งห้องน้ำสะอาดมาก
เดินเล่นที่หาดแหลมศาลาซักพักก็มุ่งหน้าไปยังถ้ำพระยานครเลยค่ะ จุดนี้ถ้าใครคิดว่าการเหมาเรือมาจากฝั่งหาดบางปูจะถึงถ้ำเลย คิดผิดนะจ๊ะ ต้องเดินขึ้นเขามาอีกจร้า ของดีจะดูจะเห็นกันง่ายๆก็หมดราคาพอดี
เขาลูกที่ 4 ปีนขึ้น "ถ้ำพระยานคร"
ระหว่างทางอาจได้พบเห็นสัตว์ป่าประปราย อย่างพวก ค่างแว่นที่คอยโผล่มาให้ตื่นเต้นเวลาได้เห็นไกล้ๆแบบนี้ๆ มันไม่กลัวคนด้วยนะ บางทีก็มีสบตากลับมาประมาณว่า "นี่ถิ่นตรู"
📷
ทางขึ้นถ้ำพระยานครจะมีลักษณะเป็นหินก้อนเล็ก ใหญ่ เดินง่ายบ้าง ยากบ้างเป็นช่วงๆไป
📷
พอเดินมาถึงครึ่งทางก็จะเจอจุดพักชมวิวค่ะ ใครไปต่อไม่ไหวก็จะโบกมือลาตรงจุดนี้แหละ แพนหยุดพักไม่นานก็ลุยต่อ ถือว่ายังเดินไม่สาหัสมาก พอไหวอยู่
📷
จวบจนได้เห็นปากถ้ำดีใจเป็นบ้า เหมือนพิชิตอะไรได้ซักอย่าง จากปากถ้ำต้องเดินลงไปด้านล่างค่ะ มีบันไดลงไปลึกพอดู ไม่อยากจะนึกถึงตอนขึ้นเล้ยยยยยยย
📷
สิ่งมหัศจรรย์แรกที่ได้พบก็คือ "น้ำตกแห้ง" คือหินผนังถ้ำที่มีลักษณะคล้ายชั้นน้ำตก มนุษย์อย่างเราก็เลยไปตั้งชื่อให้หินนี้ว่าน้ำตกแห้ง ก็มันไม่มีน้ำนี่เนาะ ฮร่า
📷
พอลงมาในถ้ำจนถึงพื้นดินมองขึ้นไป อื้อหือ ลงมาไกลเหมือนกันแฮะ จากปากถ้ำกว้างๆนี่เล็กลงเชียว
📷
พอหันกลับมามองด้านในบ้างก็เจอแล้ว สิ่งมหัศจรรย์อย่างที่สอง "สะพานมรณะ" เกิดจากการที่ผนังถ้ำด้านบนถูกลม ฝน กรัดกร่อน จนเป็นโพรงเหลือแค่ตรงกลางลักษณะคล้ายสะพาน แต่ที่ว่ามรณะนั้นเพราะมีสัตว์ป่าจากด้านบนพลัดตกลงมาอยู่บ่อยๆ
📷
เดินมาด้านในเรื่อยๆก็จะเจอกับทางเล็กๆที่สามารถเดินทะลุมาอีกฝั่งนึงได้
📷
เป็นส่วนของถ้ำพระยานครค่ะ ด้านในก็จะมีพวกหินงอก หินย้อย สวยงาม มี "อัฐิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน" ไว้ให้เราได้กราบสักการะด้วย
📷
ถัดมาใกล้กันก็จะเจอ "พระปรมาภิไธยย่อ" ฝีพระหัตถ์ของร.5 และร.7 ที่พระองค์ทรงจารึกไว้เมื่อครั้งเสด็จมาในถ้ำแห่งนี้ 📷
มีหินงอกรูปร่างคล้ายเจดีย์ที่ชื่อว่า "หินรูปเจดีย"
📷
แล้วก็ "ต้นซุ้มรอดคู่" ที่มีความเชื่อว่าถ้าใครยังโสดให้เดินผ่านระหว่างต้นไม้ 2 ต้นนี้ จะทำให้ได้เจอคู่ค่ะ
📷
และสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์ของถ้ำพระยานคร "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" ที่สร้างขึ้นในสมัย ร.5
📷
ตั้งตระหง่านอยู่กลางถ้ำพอดิบพอดี ใครเดินขึ้นเขามาจนถึงถ้ำได้ก็ต้องมาไหว้สักการะตรงนี้แหละค่ะ
ออกจากถ้ำพระยานครมาไม่ไกลมากจะเจอป้ายชี้ไป "ถ้ำแก้ว" แพนก็ตรงดิ่งเข้าไปเลยสิคะ ทางเข้าไม่ได้ปูซีเมนต์นะคะ ขับรถต้องระวังกันด้วย
เขาลูกที่ 5 ปีนขึ้น "ถ้ำแก้ว"
จะบอกว่าถ้ำนี้เป็นถ้ำสุดท้ายที่แพนขึ้น และเป็นถ้ำที่สนุกที่สุดละสำหรับแพน ความสูงจากพื้นดินถึงปากถ้ำแค่ร้อยกว่าเมตรค่ะ แต่ทางชันมากกกกกกก หินก็แหลมมากกกกกกกกกกก 📷
ใครใส่รองเท้าบางๆมาเตรียมร้องไห้ได้เลย ช่วงแรกจะมีเชือกให้จับไต่ขึ้นไป และต่อจากนั้นก็เกาะกิ่งไม้กิ่งหญ้าขึ้นเองเลยค่ะ
📷
พอมาเจอปากถ้ำต้องลงไปในรูนี้ค่ะ เราต้องไปผจญภัยกัน ระยะทางในถ้ำ 200 เมตร ที่แพนบอกว่าถ้ำนี้สนุกสุดก็ตรงนี้แหละค่ะ ด้านในถ้ำจะมืดมาก ไม่มีแสงลอดเข้ามาเลยซักนิดถ้าเดินพ้นปากถ้ำไปเนี่ย
📷
ถ้าใครต้องการเช่าไฟฉายหรือให้เจ้าหน้าที่นำทางก็ติดต่อก่อนขึ้นมานะคะ ส่วนแพนก็เดินกันเองกับเพื่อน 2 คนค่ะ แพนเตือนก่อนว่าใครเป็นโรคกลัวที่แคบนี่อย่าได้ลงไปเลยค่ะ ช่วงแรกต้องมีคลานด้วย ใจนี่ตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะไม่เห็นใครเลย มองไปข้างหน้าก็เห็นทางสุดแค่ปลายแสง ทั้งน่ากลัวทั้งตื่นเต้น
📷
สาเหตุที่ถ้ำนี้มืดมากเพราะทาง อช. อยากให้ถ้ำแก้วยังคงความธรรมชาติให้มากที่สุด เพราะงั้นเราเลยได้เห็น หินงอก หินย้อย สวยงามเวลาโดนไฟฉายส่องแบบนี้ สำหรับการผจญภัยในถ้ำ ต้องระวังมากๆเลยค่ะ มีคลาน มีปีน มีมุด เป็นช่วงๆ แล้วก็มีหลุมขนาดใหญ่ภายในถ้ำด้วย
📷
📷
เราต้องใช้ไฟฉายส่องหาลูกศรที่ทางเจ้าหน้าที่ติดไว้ตามจุดต่างๆ แล้วเดินตามทางเพื่อไปโผล่ทางออกซึ่งเป็นอีกฝั่งนึงของถ้ำแก้ว นี่กว่าแพนจะเจอทางออกก็หลงเดินไปไหนไม่รู้ ตั้งนานนึกว่าต้องนอนในถ้ำซะแล้ว มารู้ทีหลังว่าลูกศรในถ้ำมันหลุดแล้วชี้ทางผิด ปัทโธ่เอ้ยยยยย
📷
~ เพราะเธอคือแสงของปลายอุโมงค์ที่ส่องเข้ามา เปลี่ยนฉันให้มีความหมายด้วยใจของเธอ........~เป็นอย่างที่ วงโน มอร์ เทียร์ ร้องไว้เลย ฮร่า แค่เห็นแสงไกลๆแม่งงงงงงงโคตรดีใจเลย
📷
พอออกจากถ้าแก้วมาได้ก็จะเจอวิวด้านบนแบบนี้ แพนน่งรับลมพักใหญ่ๆแล้วก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายใต่เขาลงมา เหมือนเล่นเกมส์จนถึงด่านบอสแล้วเราชนะอะ เว่อร์ไปรึเปล่าแต่คิดงั้นจริง
ท้ายสุดหลังจากไปอาบน้ำและเก็บข้าวของที่ปักหลักไว้ที่หาดสามพระยาเมื่อคืน แพนก็ไปต่อที่คลองเขาแดงเลยค่ะ กะว่าปีนเขาเหนื่อยๆมาตั้งหลายลูก อยากปิดท้ายทริปนี้ด้วยการล่องเรือชิลๆ ชมนกชมไม้
ไปที่วัดเขาแดงค่ะ
📷
ด้านหน้าวัดก็จะเป็นคลองค่ะ ชื่อว่า "คลองเขาแดง"
📷
📷
เรือล่องคลองเขาแดงใช้เวลาไป - กลับประมาณชั่วโมงกว่าๆ ค่าบริการ ลำละ 500 บาท นั่งได้ 6 คน และนั่นคือเหตุปลที่แพนต้องนั่งรอให้มีคนอื่นมาขึ้นเรือแล้วแพนค่อยหารเฉลี่ยกับเค้า จะได้ไม่ต้องเสียตังค์เยอะ รอ รอ รอ นานเชียวก็ไม่มีใครหลงมา ส่วนใหญ่เค้าก็มาเป็นกลุ่ม 6-7 คน พอดีเรือเชียว สุดท้ายแพนขี้เกียจรอเพราะถ้าอยู่นานกว่านี้จะเอารถมอไซด์ไปคืนไม่ทันเวลา เลยกลับค่ะ เลยอดล่องเรือไป ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีโอกาสได้ล่องเรือคลองเขาแดง เอารูปมาอวดกันบ้างน๊าาาาาาา
หลังจากแห้วเรื่องล่องเรือ แพนก็ลาสามร้อยยอดแล้วมาคืนรถมอไซด์ที่หัวหิน กลับบ้านพร้อมความระบมและความประทับใจ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้นะคะ ไว้เจอกันใหม่ เดี๋ยวมาเมาท์เรื่องอื่นให้ฟัง ^^
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนกล้องถ่ายรูป ทั้งน้องยิ้มและพี่กุ๊กนะจ๊ะ
Comments